วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทำความรู้จัก 12 เขื่อนสูงที่สุดจากทั่วมุมโลก




          เขื่อนเป็นสิ่งก่อสร้างที่เกิดมาจากความอุตสาหะและความชาญฉลาดของมนุษย์ ซึ่งบางแห่งก็สร้างขึ้นเพื่อใช้ควบคุมแม่น้ำป้องกันอุทกภัยในระดับหนึ่ง ในขณะที่บางที่ทำขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำเอามาหมุนเวียนใช้เป็นพลังงาน ทำให้แต่ละที่มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป มิหนำซ้ำยังมีนักออกแบบมากมายที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้เขื่อนแบบเดิม ๆ สวยงามยิ่งขึ้นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปได้อีกด้วย 

          แล้วคุณเคยสงสัยบ้างหรือเปล่าว่า เขื่อนแห่งไหนกันที่จะมีขนาดสูงที่สุดในโลก ซึ่งถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้เอาคำตอบมาฝากคุณแล้ว มาดูกันเลยดีกว่าว่าเขื่อนที่สูงที่สุดในโลก 12 อันดับ มาจากที่ไหนกันบ้าง


เขื่อน Nurek, สาธารณรัฐทาจิกิสถาน
ภาพจาก TELUS

 1. เขื่อน Nurek, สาธารณรัฐทาจิกิสถาน

          บริเวณแม่น้ำ Vakhsh สาธารณรัฐทาจิกิสถาน ซึ่งนับเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในเอเชียกลาง แถมยังขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในสหภาพโซเวียตอีกด้วย แต่มันกลับเป็นบ้านเกิดของเขื่อนที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงราว 300 เมตรนี้ โดยสหภาพโซเวียตสร้างมันขึ้นตั้งแต่ปี 1961 ก่อนจะเสร็จสิ้นในปี 1980 และติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคไว้ถึง 9 อันด้วยกัน เพื่อใช้ในการหมุนเวียนพลังงาน แถมน้ำที่กักเก็บไว้ในเขื่อนยังมากที่สุดในสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ทำให้มันเป็นแหล่งสร้างพลังงานน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว 


เขื่อน Xiaowan, ประเทศจีน
ภาพจาก Chính
 2. เขื่อน Xiaowan, ประเทศจีน

          มาต่อด้วยเขื่อนอันดับ 2 ซึ่งมาจากทวีปเอเชียเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือประเทศมหาอำนาจอย่างจีนนั่นเอง โดยมันถูกสร้างขึ้นเพื่อหมุนเวียนพลังงานน้ำเป็นหลักในเดือนมกราคมปี 2002 เขื่อนบริเวณแม่น้ำโขง มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีนแห่งนี้ จึงได้ติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 700 MW ต่อยูนิตเอาไว้ด้วย ในขณะที่มีความสูงของเขื่อนอยู่ที่ 292 เมตร


ขื่อน Grande Dixence, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ภาพจาก Grande Dixence

 3. เขื่อน Grande Dixence, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          ข้ามมาทางฝั่งยุโรปกันบ้าง โดยเขื่อน Grande Dixence นี้มีความสูงอยู่ที่ 285 เมตร ตั้งอยู่ในหุบเขา Val d'Hérens ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และแม้มันจะไม่ได้สูงที่สุดในโลก แต่หากนับเฉพาะเขื่อนคอนกรีตแบบถ่วงน้ำหนักด้วยกันแล้วล่ะก็ เขื่อนแห่งนี้จะเป็นเขื่อนคอนกรีตแบบถ่วงน้ำหนักที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว


เขื่อน Inguri, ประเทศจอร์เจีย

 4. เขื่อน Inguri, ประเทศจอร์เจีย

          เขื่อนบริเวณแม่น้ำ Inguri แห่งนี้เป็นเขื่อนสูงอันดับ 4 ของโลก รวมทั้งเป็นเขื่อนสร้างจากคอนกรีตที่สูงเป็นอันดับ 2 ในเวลาเดียวกัน ด้วยความสูง 272 เมตร ซึ่งนอกจากมันจะเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำเอาไว้แปรเป็นพลังงานได้มากมายมหาศาลแล้ว ทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มโอบล้อมด้วยภูเขารอบข้าง ยังทำให้มันเป็นหนึ่งในเขื่อนที่งดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชมสักครั้งอีกด้วย


เขื่อน Vajont, ประเทศอิตาลี

 5. เขื่อน Vajont, ประเทศอิตาลี

          นับแต่ปี 1959 เขื่อนที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำ Vajont ทางตอนเหนือของกรุงเวนิส ในประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ความโรแมนติกอย่างอิตาลี ก็กลายมาเป็นหนึ่งในภาพคุ้นตามาตลอด แม้ปัจจุบัน มันจะไม่ได้ถูกใช้งานแต่อย่างใดแล้วก็ตาม แถมเมื่อปี 1963 ยังเกิดเหตุน่าเศร้าเมื่อดินถล่มทำให้มีคนตาย ณ ที่นั่นกว่า 2 พันคนอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงเป็นเขื่อนที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วยความสูง 262 เมตร อยู่ดี



ขื่อน Manuel Moreno Torres, ประเทศเม็กซิโก
ภาพจาก Mexico

 6. เขื่อน Manuel Moreno Torres, ประเทศเม็กซิโก

          หรืออีกชื่อว่า Sumidero Canyon แห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเม็กซิโกเลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เขื่อนกักเก็บน้ำธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่เขื่อนสูง 261 เมตรแห่งนี้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าตามธรรมชาติมากมาย รวมไปถึงจระเข้ด้วย มันจึงเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวรักธรรมชาติทั้งหลายแห่แหนกันมาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้


เขื่อน Tehri, ประเทศอินเดีย
ภาพจาก Bazaar of dreams

 7. เขื่อน Tehri, ประเทศอินเดีย

          หากจะมองหาเขื่อนที่เกิดมาเพื่อถูกใช้งานจริงล่ะก็ เขื่อนหินบริเวณแม่น้ำ Bhagirathi แห่งนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำนั้นมากที่สุด เพราะทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานน้ำให้ทั้ง Tehri Hydro Development Corporation Ltd. และ the Tehri hydroelectric complex จึงเรียกได้ว่ามันมีส่วนสำคัญสำหรับการเติบโตทางด้านธุรกิจของประเทศอินเดียอยู่ไม่น้อย โดยเขื่อนแห่งนี้มีความสูงใกล้เคียงกับเขื่อน Manuel Moreno Torres ที่ 261 เมตร และห่างกันเพียง 2 ฟุตเท่านั้น


เขื่อน Mauvoisin, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 8. เขื่อน Mauvoisin, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          มองเผิน ๆ เขื่อนสูง 250 เมตรนี้อาจจะดูเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ปราศจากสิ่งก่อสร้างด้วยฝีมือมนุษย์โดยสิ้นเชิง แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเขื่อนประตูโค้งที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว แต่เมื่อมาถึงแล้ว คนอาจลืมมองที่กั้นเขื่อนไปเลยก็ได้ เพราะภาพน้ำสีฟ้าใสสะอาดที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตัดกับภูเขาที่โอบล้อม เกิดเป็นทัศนียภาพงดงามเหมือนภาพเขียนเลยทีเดียว



เขื่อน Laxiwa, ประเทศจีน

 9. เขื่อน Laxiwa, ประเทศจีน

          ใช่ว่าประเทศมหาอำนาจอย่างจีนจะมีเขื่อนสูงใหญ่เพียงแค่เขื่อน Xiaowan แห่งเดียวเท่านั้น เพราะเขื่อน Laxiwa ในแม่น้ำ Yellow ที่เซี่ยงไฮ้ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย โดยมันมีความสูงอยู่ที่ 250 เมตร และติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 700 MW ต่อยูนิตถึง 6 เครื่อง ทำให้มีกำลังการทำงานมากจนเป็นแหล่งพลังงานหลัก ๆ ของเซี่ยงไฮ้ไปโดยปริยาย


เขื่อน Deriner, ประเทศตุรกี
ภาพจาก Panoramio

 10. เขื่อน Deriner, ประเทศตุรกี

          ณ ตอนใต้ของเมือง Artvin บริเวณแม่น้ำ Çoruh ประเทศตุรกี คือที่ตั้งของเขื่อนทรงโค้งสูง 249 เมตร ที่สร้างจากคอนกรีต 2 ชั้น และมันก็เป็นเขื่อนอีกแห่งที่มีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานเช่นกัน โดยตอนนี้มันยังอยู่ในระหว่างการสร้าง หลังจากเริ่มต้นลงมือเมื่อปี 1998 และได้เริ่มบรรจุน้ำเข้าไปในปี 2012 ที่ผ่านมานี้เอง และคาดว่าจะสำเร็จเรียบร้อยภายในปีนี้


เขื่อน Alberto Lleras, สาธารณรัฐโคลอมเบีย
ภาพจาก Elden Life

 11. เขื่อน Alberto Lleras, สาธารณรัฐโคลอมเบีย

          ท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติแสน สวยบนแม่น้ำ Guavio สาธารณรัฐโคลอมเบียแห่งนี้ คือเขื่อน Alberto Lleras สูง 243 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1989 และมีเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 1,150 MW ต่อยูนิตติดตั้งเอาไว้ด้วย ดังนั้น ประสิทธิภาพเรื่องการหมุนเวียนสร้างพลังงานจากน้ำคงไม่ต้องสงสัยกันเลยล่ะ


เขื่อน Mica, ประเทศแคนาดา
ภาพจาก Status go kil

 12. เขื่อน Mica, ประเทศแคนาดา

          และแล้วก็มาถึงอันสุดท้าย ซึ่งก็คือเขื่อน Mica สูง 243 เมตร บนแม่น้ำโคลัมเบียอันงดงามของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยชื่อของมันมาจาก Mica Creek หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตอนนี้จมลงไปใต้น้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ในที่สูงกว่าเดิม ต่อมาเมื่อปี 2005 หมู่บ้านนี้ก็ไม่มีคนอาศัยอยู่อีก แม้จะยังคงมีตัวบ้านแบบเก่าหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูเหลืออยู่บ้างก็ตาม และเมื่อเขื่อนประกอบกับภาพหมู่บ้านเก่ามาอยู่ด้วยกัน มันจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยียนไม่น้อยเลยล่ะ


          ทั้งนี้ กว่าจะเกิดเป็นเขื่อนสูงตระการตาแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยทีเดียว เพราะต้องใช้เวลาสร้างอยู่นาน ต่อมาก็ต้องบำรุงรักษาอยู่ตลอด แล้วไหนจะต้องทุ่มงบเป็นเงินมหาศาลอีก มันจึงเป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลังอย่างเรา ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาสถาปัตยกรรมที่มีค่าแบบนี้เอาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมต่อไปนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น