วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อเล็กซานเดอร์มหาราช

อเล็กซานเดอร์มหาราช
มหาจักรพรรดิแห่งเอเชีย
Aleksander-d-store.jpg
รูปปั้นของอเล็กซานเดอร์มหาราช
กษัตริย์แห่งมาซิโดเนีย
ครองราชย์พ.ศ. 207 – 220
ก่อนหน้าฟิลิปที่ 2 แห่งมาซีดอน
ถัดไปอเล็กซานเดอร์ที่ 4
ฟิลิปที่ 3
ผู้ปกครองแห่งอียิปต์
ครองราชย์พ.ศ. 211 – 220
ก่อนหน้าดาริอุสที่ 3 (ราชวงศ์อะคีเมนิด)
ถัดไปอเล็กซานเดอร์ที่ 4
ฟิลิปที่ 3
ผู้ปกครองแห่งเปอร์เซีย
ครองราชย์พ.ศ. 213 – 220
ก่อนหน้าดาริอุสที่ 3 (ราชวงศ์อะคีเมนิด)
ถัดไปอเล็กซานเดอร์ที่ 4
ฟิลิปที่ 3
อัครมเหสีโรซานาแห่งแบคเทรีย
สตาเธียร่าที่ 2 แห่งเปอร์เซีย
ปารีซาติสแห่งเปอร์เซีย
พระราชบุตรอเล็กซานเดอร์ที่ 4
พระนามเต็ม
อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซีดอน
กรีก
  • Μέγας Ἀλέξανδροςiii[›] (Mégas Aléxandros, Great Alexander)
  • Ἀλέξανδρος ὁ Μέγας (Aléxandros ho Mégas, Alexander the Great)
ราชวงศ์อาร์กีด
พระราชบิดาฟิลิปที่ 2 แห่งมาซีดอน
พระราชมารดาโอลิมเปียสแห่งอิพิรุส
ประสูติ20 หรือ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 187
เพลลา, มาซิโดเนีย
สวรรคต10 หรือ 11 มิถุนายน พ.ศ. 220 (32 ชันษา)
บาบิโลน
ศาสนากรีกเทวนิยม
อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซีดอน (356-323 ปีก่อนคริสตกาล) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า อเล็กซานเดอร์มหาราช (อังกฤษAlexander III of Macedon หรือ Alexander the Great,กรีกΜέγας ἈλέξανδροςMégas Aléxandros) เป็นกษัตริย์กรีกจากแคว้นมาซิโดเนีย ผู้สร้างชื่อเสียงมากที่สุดของราชวงศ์อาร์กีด เป็นผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ เกิดที่เมืองเพลลา ตอนเหนือของมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 356 ก่อนคริสตกาล ได้รับการศึกษาตามแบบกรีกดั้งเดิมภายใต้การกำกับดูแลของอริสโตเติล นักปรัชญากรีกผู้มีชื่อเสียง สืบทอดราชบัลลังก์ต่อจาก ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 336 ก่อนคริสตกาลหลังจากที่พระบิดาถูกลอบสังหาร สวรรคตในอีก 13 ปีต่อมาเมื่อพระชนมายุเพียง 32 พรรษา แม้ว่าราชบัลลังก์และจักรวรรดิของอเล็กซานเดอร์จะอยู่เพียงชั่วครู่ยาม แต่ผลกระทบจากการพิชิตดินแดนของพระองค์ส่งผลสืบเนื่องต่อมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ อเล็กซานเดอร์ถือเป็นหนึ่งในบุรุษผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกยุคโบราณ มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสามารถทางการรบ ยุทธวิธี และการเผยแพร่อารยธรรมกรีกไปในดินแดนตะวันออก
พระเจ้าฟิลิปทรงนำแว่นแคว้นกรีกโดยมากบนแผ่นดินใหญ่กรีซให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของมาซิโดเนีย โดยใช้ทั้งกลวิธีทางการทูตและทางทหาร เมื่อฟิลิปสวรรคต อเล็กซานเดอร์จึงได้สืบทอดราชอาณาจักรที่เข้มแข็งและกองทัพที่เปี่ยมประสบการณ์ พระองค์เป็นที่ยอมรับในด้านการรบจากแว่นแคว้นกรีซ และได้เริ่มแผนการขยายอำนาจแผ่อาณาจักรตามที่บิดาเคยริเริ่มไว้ พระองค์ยกทัพรุกรานดินแดนเอเชียไมเนอร์ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเปอร์เซีย และกระทำการรณยุทธ์อย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลาร่วมสิบปี อเล็กซานเดอร์เอาชนะชาวเปอร์เซียครั้งแล้วครั้งเล่า นำทัพข้ามซีเรีย อียิปต์ เมโสโปเตเมียเปอร์เซีย และแบคเทรีย ทรงโค่นล้มกษัตริย์ดาริอุสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย และพิชิตจักรวรรดิเปอร์เซียได้ทั้งหมด1 พระองค์ไล่ตามความปรารถนาที่ต้องการเห็น "จุดสิ้นสุดของโลกและมหาสมุทรใหญ่ที่เบื้องปลาย" จึงยกทัพบุกอินเดีย แต่ต่อมาถูกบีบให้ต้องถอยทัพกลับโดยบรรดาทหารที่กำเริบขึ้นเนื่องจากเบื่อหน่ายการสงคราม
อเล็กซานเดอร์สวรรคตที่เมืองบาบิโลน ในปีที่ 323 ก่อนคริสตกาล ก่อนจะเริ่มแผนการรบต่อเนื่องในการรุกรานคาบสมุทรอาระเบีย ในปีถัดจากการสวรรคตของอเล็กซานเดอร์ เกิดสงครามกลางเมืองทั่วไปจนอาณาจักรของพระองค์แตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้เกิดเป็นรัฐใหญ่น้อยมากมายปกครองโดยบรรดาขุนนางชาวมาซิโดเนีย แม้ความเป็นผู้พิชิตของพระองค์จะโดดเด่นอย่างยิ่ง แต่มรดกของอเล็กซานเดอร์ที่ยืนยงต่อมากลับมิใช่ราชบัลลังก์ กลายเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่ติดตามมาจากการพิชิตดินแดนเหล่านั้น การก่อร่างสร้างเมืองอาณานิคมกรีกและวัฒนธรรมกรีกที่เผยแพร่ไปในแดนตะวันออกทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมเฮเลนนิสติก ซึ่งยังคงสืบทอดต่อมาในจักรวรรดิไบแซนไทน์กระทั่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 อเล็กซานเดอร์เป็นบุคคลในตำนานในฐานะวีรบุรุษผู้ตามอย่างอคิลลีส มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมปรัมปราทั้งของฝ่ายกรีกและที่ไม่ใช่กรีก เป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานซึ่งบรรดานายพลทั้งหลายใช้เปรียบเทียบกับตนเองแม้จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนการทหารทั่วโลกยังคงใช้ยุทธวิธีการรบของพระองค์เป็นแบบอย่างในการเรียนการสอน2

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

ประธานาธิบดี
แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
Président de la République française
Armoiries république française.svg
ตราแผ่นดิน

François Hollande (Journées de Nantes 2012).jpg
อยู่ในตำแหน่ง
ฟร็องซัว ออล็องด์
ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2555

ที่พำนักปาแลเดอเลลีเซ
ผู้แต่งตั้งการเลือกตั้งโดยตรง
วาระ5 ปี
ผู้ประเดิมตำแหน่งชาร์ล หลุยส์-นโปเลียน โบนาปาร์ต
สถาปนา20 ธันวาคม พ.ศ. 2391
เว็บไซต์Élysee.fr
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส:Président de la République française) เป็นตำแหน่งสูงสุดฝ่ายอำนาจบริหารของประเทศฝรั่งเศสโดยมาจากการเลือกตั้ง และดำรงตำแหน่งเป็นทั้งประมุขแห่งรัฐ จอมทัพ ผู้รับรองรัฐธรรมนูญและผู้ปกครองร่วมอันดอร์รา
ตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2391 (สมัยสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2) ซึ่งทำให้ระบอบประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นระบอบที่มีความเป็นมายาวนานที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป จวบจนปัจจุบัน มีผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวทั้งสิ้น 23 คน ซึ่งทุกคนได้พำนักในปาแลเดอเลลีเซมาแล้ว
รัฐธรรมนูญในแต่สาธารณรัฐนั้น ได้กำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของประธานาธิบดีแตกต่างกันไป ตั้งแต่ พ.ศ. 2502เป็นต้นมา ประเทศฝรั่งเศสอยู่ในยุคสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ในระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบันคือ ฟร็องซัว ออล็องด์ ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เปาบุ้นจิ้น

เปา เจิ่ง
包拯
Bao Zheng scth.jpg
ภาพเปา เจิ่ง จาก สมุดภาพไตรภูมิ (三才圖會) ซึ่งเผยแพร่ในราชวงศ์หมิงเมื่อ พ.ศ. 2152
เกิด11 เมษายน พ.ศ. 1542
เมืองเหอเฝย์ มณฑลอันฮุย
เสียชีวิต20 พฤษภาคม พ.ศ. 1605
(63 ปี 39 วัน)
เมืองไคฟง
สุสาน
อำเภอหลูหยาง เมืองเหอเฝย์ มณฑลอันฮุย
31°51′27.17″N 117°17′56.39″E / 31.8575472°N 117.2989972°E
ชื่ออื่น
  • "เปาชิงเทียน" ตามสำเนียงกลาง หรือ "เปาแชที" ตามสำเนียงแต้จิ๋ว (包青天; "เปากระจ่างฟ้า")
  • "เปาหลงถู" ตามสำเนียงกลาง หรือ "เปาเล่งถู" ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (包龍圖; "เปามังกรประดิษฐ์")
  • "เปาไตจื้อ" (包待制; "ราชเลขาฯ เปา")
อาชีพข้าราชการพลเรือน
ปีปฏิบัติงานพ.ศ. 1580–พ.ศ. 1605
คู่สมรส
  • ท่านหญิงจาง (張氏)
  • ท่านหญิงต่ง (董氏)
บุตร
  • เปา อี้ (包繶)
  • เปา โช่ว (包綬)
เปา เจิ่ง ตามสำเนียงกลาง หรือ เปาจิ้น ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (จีน包拯พินอินBāo Zhěng; 11 เมษายน พ.ศ. 1542 — 20 พฤษภาคม พ.ศ. 1605) หรือในวรรณกรรมเรียก เปา เหวินเจิ่ง ตามสำเนียงกลาง หรือ เปาบุ้นจิ้น ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (包文拯) เป็นข้าราชการชาวจีนซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือในรัชกาลพระเจ้าเหรินจง ดำรงตำแหน่งหลายหลากในราชการพลเรือน ตั้งแต่นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งสุดท้ายคือเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) มีชื่อเสียงเป็นอันมากในด้านการตรวจสอบทุจริตในวงราชการ ได้รับยกย่องเป็นรัฐบุรุษในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ และมีกิตติคุณเล่าขานกันทั่วไปสืบ ๆ มา ทั้งในรูปแบบมุขปาฐะ วรรณกรรม และอุปรากร ปัจจุบัน นับถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

เมืองฟลอเรนช์

เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) หรือ เมืองฟีเรนเซ (Firenze) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ที่   โดยเมืองฟลอเรนซ์นั้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลอเรนซ์ (Firenze: FI)
และแคว้นทัสกานี (Tuscany) แคว้นที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีนั่นเอง
เมืองฟลอเรนซ์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน (Arno River) ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
โดยเฉพาะในช่วงยุคกลางเมืองฟลอเรนซ์ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน
และถือกันว่าเป็นที่เกิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา และยังมีชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม

จัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม และ มหาวิหารฟลอเรนซ์
     เมื่อปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ใจกลางเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์ได้รับเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย องค์การยูเนสโก (Unesco) เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของเรอเนสซองส์ ที่ได้เติบโตขึ้นเป็นอิทธิพลทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมภายใต้การปกครองของตระ กูลเมดิชี (Medici) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 -16 รวมไปถึงกิจกรรมทางศิลปะที่พิเศษอันดำเนินไปในช่วง 600 ปี เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากสถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถาน และอื่นๆในเขตเมืองเก่าฟลอเรนซ์
สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองฟลอเรนซ์นั้น จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวแรกนั้นขอแนะนำให้คุณมุ่งหน้าไปยังบริเวณ ใจกลางเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) จัตุรัสที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมมาก ที่สุดในยุโรป โดยจัตุรัสนั้นตั้งอยู่ในใจกลางของศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองฟลอเรนซ์

มหาวิหารฟลอเรนซ์ และ จอตโต แคมพานีลี
ไปชมความงดงามของ มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) หรือ อาสนวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Basilica di Santa Maria del Fiore) มหาวิหารที่ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู
มหาวิหารฟลอเรนซ์ เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป รองลงมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ มหาวิหารเซนต์พอล และมหาวิหารมิลาน มีความยาว 153 เมตร และฐานของโดมกว้างถึง 90 เมตร ปัจจุบันมหาวิหารอยู่ภายใต้การดูแลของสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งฟลอเรนซ์ (Roman Catholic Archdiocese of Florence)
เปียสซ่า เดลลา ซินโยเลีย (Piazza della Signoria) จัตุรัสรูปตัว Lที่อยู่ด้านหน้า ปาลาสโซ เวชชิโอ (Palazzo Vecchio) เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางศูนย์กลางทางการเมือง ทางการเมืองของเมืองฟลอเรนซ์ ไม่พลาดไปชมอาคารปาลาสโซ เวชชิโอ หรือ อาคารศาลากลางแห่งเมืองฟลอเรนซ์ นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับงานศิลปะ จิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และบิรเวณด้านหน้าปาลาสโซ เวชชิโอยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุรูปเนปจูน (Fountain of Neptune) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1563-1565 โดย แบร์โตโลมิโอ แอมแมนนาติ (Bartolomeo Ammannati)

สะพาน ปอนเต เวชชิโอ
สะพาน ปอนเต เวชชิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน โดยบนสะพานนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารร้านค้า ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายงานศิลปะ อัญมณี และของที่ระลึกจำนวนมาก โดยเชื่อกัยว่าสะพานที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน ปัจจุบันกลายเป้นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชือ่เสียงมากแห่งหนึ่งของ เมืองฟลอเรนซ์
เมืองฟรอเรนส์ เป็นแหล่งรวมช้อปปิ้งที่ท่านสามารถไปเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคา ถูกได้ที่ The Mall Outlet
(shopping top brands)ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Armani ,burberry,Dior Fendi ,Giorgio Armani,Gucci ,hogan,tod's, Valentino ,
ในแต่ละปีเมืองฟรอเรนส์เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปี ละเป็นล้านคนเลยที่เดียว ฟรอเรนส์ถือได้ว่ารวมเอาไว้ทั้งด้านศิลปะ แฟชั่น และแหล่งช้อปปิ้ง
ถือได้ว่าถ้าท่านได้มายังเมืองฟรอเรนส์ ท่านจะได้สัมผัสทุกรูปแบบที่คุ้มค่าเลยที่เดียว